ปวดคอ ( Neck Pain )

Pretty Woman enjoying  massage at beauty spa

นั่งทำงานนาน ๆ อ่านหนังสือนาน ๆ ก้ม ๆ เงย ๆ ปวดเมื่อยคอจังเลย ทำอย่างไรดี หาคำตอบจากได้บทความนี้ค่ะ

มาทำความรู้จักกับโครงสร้าง “ คอ ” กันเถอะ

คอเป็นอวัยวะที่เชื่อมระหว่างศีรษะกับลำตัว ประกอบไปด้วย. กระดูกต้นคอ(cervical spine) 7 ชิ้น เส้นประสาทคอ (nerve) กล้ามเนื้อ( muscle ) เส้นเลือด( blood vesc) และเป็นทางผ่านของหลอดลม( trachea) และหลอดอาหาร(esophagus)  การที่คอเคลื่อนไหวได้ก็อาศัยกล้ามเนื้อคอและการเคลื่อนไหวของกระดูกคอทั้ง 7 ชิ้นนี้ กระดูกคอจะทำหน้าที่ห้อมล้อมไขสันหลังและมีช่องระหว่างกระดูกคอให้เส้นประสาทผ่านออกมาเลี้ยงกล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนและรยางค์แขน.        จะเห็นได้ว่าคอเป็นโครงสร้างที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นทางผ่านของโครงสร้างสำคัญหลายอย่างทั่วร่างกายทั้ง สมอง ไขสันหลัง หลอดลม หลอดอาหาร เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรดูแลและใส่ใจโครงสร้างคอเป็นพิเศษไม่ให้มีการบาดเจ็บเรื้อรังเป็นเวลานาน

เครดิตรูปภาพ https://www.umbjournal.org/article/S0301-5629(20)30082-X/abstract

 

สาเหตุของการปวดคอที่พบได้บ่อย

1. อริยาบทหรือท่าทางที่ผิดปกติ เช่น การก้มคอทำงานทั้งวัน (เช่น งานเขียนหนังสือ) การทำงานที่ต้องแหงนคอทำนาน ๆ การนอนหมอนสูงเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อคอทำงานมากเกินไป เกิดอาการอ่อนล้าและเจ็บปวดได้

2. ภาวะคอเคล็ด เป็นภาวะที่คอมีการเคลื่อนไหวผิดทิศทางอย่างรวดเร็วและรุนแรง (เช่น จากอุบัติเหตุรถชนกัน) เป็นผลให้กล้ามเนื้อหรือเอ็นบริเวณคอมีการยืดอย่างมาก หรืออาจมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ หดเกร็ง เกิดอาการปวดได้

3. ภาวะกระดูกคอเสื่อม เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ กระดูกคอถูกใช้งานมานานตั้งแต่เกิดจะมีการเสื่อมของข้อกระดูก ทำให้เกิดอาการปวดคอเรื้อรัง ในบางรายอาจมีกระดูกงอกไปกดปลายประสาท ทำให้เกิดอาการชาหรืออ่อนแรงของแขนได้

4. ภาวะกระดูกคออักเสบ โรคข้ออักเสบบางชนิด เช่น โรครูมาตอยด์ และโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบติดยึด อาจทำให้ข้อต่อของกระดูกคออักเสบได้

5. ภาวะเครียด พบว่าในปัจจุบันความเครียดจากการทำงาน ทำให้ไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอ อาจทำให้มีการเกร็งของกล้ามเนื้อคอเป็นเวลานาน เกิดการปวดคอได้

6. อาการปวดคอที่เป็นอาการปวดร้าวมาจากอวัยวะอื่น ๆ โรคบางชนิด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอาจมีอาการปวดร้าวมาที่บริเวณลำคอได้

เมื่อมีอาการปวดคอร่วมกับอาการอื่นต่อไปนี้ ผู้ป่วยควรรีบเข้ารับรักษาหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัด

อาการปวดคอแบบไหนนะที่ควรรีบรักษา

1. มีอาการปวดคอเป็นมานานกว่า 2 สัปดาห์

2. อาการปวดคอภายหลังได้รับอุบัติเหตุ

3. มีอาการอ่อนแรงของแขนและขา หรือมีอาการชา หรือปวดร้าวไปที่แขนร่วมด้วย

4. มีอาการปวดข้อหรือข้ออักเสบอื่น ๆ ของร่างกายร่วมด้วย

5. มีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรืออาการเจ็บอกร่วมด้วย

6. ไม่สามารถเคลื่อนไหวคอในทิศทางต่าง ๆ ได้เป็นปกติ

แนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวดคอ

1. พักการใช้งาน คือ ไม่ทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานหรือจ้องสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานานมากเกินไป เพิ่มช่วงพักทุก ๆ 1 ชม. ให้พักด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถ ไปทำกิจกรรมอื่นๆบ้าง

2. เพิ่มช่วงยืดเหยียด กล้ามเนื้อคอระหว่างการทำงาน เช่น 

– ท่ายืดกล้ามเนื้อคอบ่า (Upper trapezius) ท่าเริ่มต้นยืนหรือนั่งก็ได้ หลังตรงแล้วเอียงศีรษะไปด้านข้างจนรู้สึกตึงๆ บริเวณกล้ามเนื้อคอด้านข้าง ค้างไว้ 20 วินาที แล้วผ่อนออกช้าๆกลับสู่คอตรง ทำซ้ำข้างละ 2-3 ครั้ง


– ท่ายืดกล้ามเนื้อคอ (Sternocleidomastoid) ท่าเริ่มต้นยืนหรือนั่งก็ได้ หลังตรง คอตรง หันศีรษะไปด้านข้าง ซ้ายขวา ค้างไว้ 20 วินาที ให้รู้สึกตึงบริเวณต้นคอด้านหน้า แล้วผ่อนออกช้าๆกลับสู่คอตรง ทำซ้ำข้างละ 2-3 ครั้ง

 

 * หมายเหตุ ความถี่และจำนวนเวลาในการออกกำลังกายให้ปรับตามความสามารถของร่างกาย ไม่ฝืนทนถ้ามีอาการเจ็บเพิ่มขึ้น. การออกกำลังกายสามารถช่วยยืดกล้ามเนื้อที่ตึงให้มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น มีการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกายที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงผ่อนคลายลง อาการปวดก็จะดีขึ้น ถ้าออกกำลังกายแล้วอาการปวดไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 อาทิตย์ หรือปวดเพิ่มขึ้นอาจเป็นไปได้ว่ามีความผิดปกติของโครงสร้างที่ซับซ้อน ให้หยุดการออกกำลังกายและมาพบนักกายภาพบำบัดเพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมต่อไป (หากท่านผู้อ่านมีความกังวลใจเกี่ยวกับอาการปวดคอของท่าน  สามารถมารับการตรวจร่างกายที่ ซาลดรา อาร์ทัว คลินิกฯ ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ😍 )

แนวทางการรักษาทางของซาลดรา อาร์ทัว คลินิกกายภาพบำบัด

        ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุว่า อาการปวดมาจากโครงสร้างใด ?  มีปัญหาแบบไหน ? เพื่อเราจะได้ออกแบบการรักษาอย่างเหมาะสมและตรงจุด ส่วนใหญ่อาการปวดเป็นเพียงปลายเหตุ ต้นเหตุมักมาจากความไม่สมดุลของร่างกาย หรือการสะสมความผิดปกติจากการใช้งานในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย เช่น คอยื่น (Chin out) หลังค่อม (Kyphosis ) กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) สะโพกเอียง(Pelvic drop) สะบักลอย(Wing scapula) ความตึงตัวของกล้ามเนื้อผิดปกติ(Tight /Weakness muscle) ฯลฯ เมื่อโครงสร้างผิดปกติก็ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของร่างกายได้ง่าย 

       ซาลดราอาร์ทัว คลินิกกายภาพบำบัดจึงให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลของร่างกาย  ทั้งระบบไหลเวียนโลหิต ระบบประสาท ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ  เพื่อให้ร่างกายของเราได้ฟื้นฟูอย่างเป็นองค์รวม ควบคู่กับการเน้นการรักษาบริเวณที่มีอาการปวดและอักเสบ ด้วยวิธีการรักษาทางกายภาพบำบัด เรารักษาแบบ อนุรักษ์นิยม (Conservative treatment)  คือ ไม่ได้ใช้การฉีดยา ทานยาหรือผ่าตัด เพราะเราเชื่อว่ายาหรือสารเคมีที่เข้ามาในร่างกายจะส่งผลกระทบข้างเคียงต่อระบบโดยรวมของร่างกายและการผ่าตัดจะให้ร่างกายของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นั่นคือจะทำให้เกิดแผลเป็น(Scar)และผังพืดในร่างกาย ซาลดรา อาร์ทัวฯจึงเน้นที่จะฟื้นฟูโครงสร้างให้กลับสู่ภาวะปกติที่สุดโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเครื่องมือทางการแพทย์ (กายภาพบำบัด) ผสานกับเทคนิดเฉพาะของ ซาลดรา อาร์ทัว คลินิกฯที่ออกแบบอย่างเหมาะสมเฉพาะกับแต่ละบุคคล 

ตัวอย่างการรักษา 

1. Hot/Cold pack เลือกประคบอุ่นหรือเย็น

2. คลื่นไฟฟ้าเพื่อการรักษา Electrotherapy เป็นคลื่นไฟฟ้าเพื่อการรักษา สามารถลดอาการปวดเเละเร่งการไหลเวียนเลือด การกระตุ้นระบบประสาท ฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อให้ถูกต้อง (Motor Relearning) ชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ (Delay muscle atrophy) และลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ (Release muscle tightness)

3. Ultrasound therapy เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงที่ส่งเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของโมเลกุล เกิดความร้อนลึก ที่ใช้ในการรักษาโครงสร้างที่มีอาการอักเสบและเร่งกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย (Healing process)

4. การจัดกระดูกและข้อต่อ (Manual technique) ของซาลดรา อาร์ทัว โดยขยับทีละข้อต่อเพื่อปรับสมดุลของร่างกายให้ใกล้เคียงปกติที่สุด เมื่อโครงสร้างของร่างกายอยู่ในแนวสมดุลก็จะส่งผลให้ร่างกายบาดเจ็บลดลง

5. อื่นๆ เช่น K-taping / Traction / Exercise therapy เป็นต้น

หากไม่สะดวกเข้ารับการรักษาหรือมีอาการปวดเมื่อยเเต่ไม่มาก  ทางคลินิกขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ซาลดราเมด Herbal Moisturizing Relax Gel เจลทาภายนอกเผื่อบรรเทาความเมื่อยล้า ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ  ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ  ต้านอนุมูลอิสระ  รวมทั้งให้ความชุ่มชื้นกับผิว ด้วยนวัตกรรรมใหม่ เนื้อเจลบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอนผ่อนคลาย ไม่มีกลิ่นติดเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ ให้คุณมั่นใจได้ตลอดวัน (ไม่มีใครรู้ว่าทายา 😊)

“ ปวดเมื่อยไม่ใช่เรื่องธรรมดา รีบดูแลรักษาเพื่อใช้ร่างกายได้นาน ๆ ” 

ผลิตภัณฑ์ ผ่อนคลายความเมื่อยล้า Saldra Med

ซาลดราอาร์ทัว คลินิก ยินดีให้คำปรึกษาและตรวจประเมินฟรี  โดยนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ 

🌟🌟 สนใจผลิตภัณฑ์หรือติดต่อเพื่อนัดหมายเวลาเข้าตรวจประเมินและรักษา โทร 022874459 🌟🌟

ด้วยความห่วงใยจาก ซาลดรา อาร์ทัว คลินิก ฯ
เราอยากให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
สอบถามเพิ่มเติม และทํา นัดรักษา
02-2874459
line : @saldraartuaclinic

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปวดคอ ( Neck Pain )

นั่งทำงานนาน ๆ อ่านหนังสือนาน ๆ ก้ม ๆ เงย ๆ ปวดเมื่อยคอจังเลย ทำอย่างไรดี หาคำตอบจากได้บทความนี้ค่ะ

อ่านต่อ »

ปวดไหล่ ( shoulder pain )

อาการปวดไหล่ ที่พบบ่อยเกิดจากหลายสาเหตุ อาจเกิดจาก – พยาธิสภาพที่ข้อไหล่เอง – พยาธิสภาพ

อ่านต่อ »